“แสงแดด” แรงเบอร์นี้.. ก็มีประโยชน์นะ

เคยสงสัยมั้ย? ทำไมประเทศไทยถึงมีอากาศร้อนมาก มีแดดร้อนจัดแทบตลอดปี
นั่นเพราะประเทศไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร และเป็นที่ราบต่ำ เลยทำให้มีอากาศร้อน
จะมีช่วงปลายปีที่อากาศจะเริ่มเย็นลงบ้าง แต่แสงแดดก็ยังร้อนอยู่ดี

หลายคนจึงพยายามหาวิธีต่อสู้กับแสงแดดจัด ด้วยการเดินหลบแดด กางร่ม หรือแม้แต่การเลือกใช้ครีมกันแดด
เพื่อป้องกันอาการแสบร้อนผิว และไม่ให้สีผิวคล้ำขึ้นนั่นเอง

แต่ในความร้อนแบบร้ายๆ ก็ยังมีความดีอยู่ เพราะการที่เราได้รับแสงแดดในปริมาณที่เหมาะสม ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ร่างกายเราจะได้รับ “วิตามินดี” ที่เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง หากใครที่ผิวหนังไม่ได้รับแสงแดดเลย หรือโดนแดดน้อยเกินไป อาจส่งผลให้กระดูกเปราะบางลง เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน

การสัมผัสแสงแดด อาจช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นทางด้านอารมณ์ ช่วยให้มีสมาธิ และใจเย็นขึ้นด้วย เราจึงควรหาเวลาออกมารับแสงแดดในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการรับแสงแดดอ่อนยามเช้า คือ 07.00-08.00น

องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า การสัมผัสแดดอ่อนๆเพียง 2-3 วัน/สัปดาห์ วันละ 5-15 นาที ร่างกายจะได้รับวิตามินดีจากแดดในปริมาณเพียงพอแล้ว **อย่างไรก็ตาม ปริมาณการรับแสงแดดของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะผิวหนัง และปริมาณรังสี UV ที่มีอยู่ในแสงแดดเวลานั้นด้วย

แม้แสงแดดจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ประกอบไปด้วยรังสี UVA, UVB และUVC ที่เป็นอันตราย หากสัมผัสแดดนานเกินไป อาจทำให้ผิวหนังไหม้ ผิวแห้ง หยาบกร้าน ดำคล้ำ หรืออาจเป็นลมแดดได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณะสุขไทยเผยว่า แดดในประเทศไทยช่วงเวลา 09:00-15:00น จะมีปริมาณรังสี UV อยู่มาก จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อผิวหนังและสุขภาพ หากต้องสัมผัสแดดเป็นเวลานาน ควรสำรวจร่างกายตนเองและเด็กอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติ เช่น ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลง บวม หรือมีเลือดออก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที